สงสัยไหมว่า? ค่าสี RGBWW กับ ค่าสี RGBLAC ที่อยู่คำลงท้ายรุ่นไฟต่างๆ มีความสำคัญยังไง แล้วมันต่างกันแบบไหน ในบทความนี้จะมาไขข้อสงสัย ค่าสี RGBWW กับ ค่าสี RGBLAC กัน !!!
1. คุณสมบัติของสี RGBWW
ไฟ LED ที่เป็นสีแบบ RGBWW เป็นไฟแบบใหม่ที่พัฒนาในช่วงหลัง และเป็นที่นิยมใช้งานกันหลากหลาย โดย RGBWW นั้นคือการรวมหลอดเอาไว้ด้วยกัน 5 ดวงด้วยกัน ได้แก่ Red,Green,Blue,White และ Warm light สามารถปรับเฉดสีได้มากถึง 36,000 เฉดสี
ปกติไฟ LED ทั่วๆไปจะเป็น RGB หรือ RGBW ซึ่งสามารถสร้างสีได้จากการผสมสี Red , Green และ Blue ส่วน White จะเพิ่มแสงสีขาว ทำให้แสงดูแข็งเมื่อใช้แสงสีขาว และ RGBW เพิ่มความสามารถ โดยเพิ่มแสงสีขาวอมเหลือง Warm light ทำให้แสงนุ่ม ละมุนมากขึ้น
2. คุณสมบัติของสี RGBLAC
ไฟสตูดิโอมีการพัฒนามาตลอดตั้งแต่ RGB/RGBW/RGBWW และสีล่าสุด RGBLAC เพื่อตอบโจทย์งานวิดีโอที่มากกว่าเดิม ซึ่ง RGBLAC เป็นไฟ LED ที่รวมหลอดเอาไว้ด้วยกันจำนวน 6 ดวงด้วยกัน เพิ่ม 3 สี คือ Lime/Amber/Cyan เข้ากับแหล่งกำเนิดแสง RGB ทำให้คลื่นความถี่ในช่วงกว้าง สร้างสีให้แม่นยำยิ่งขึ้น และสามารถเพิ่มความอิ่มตัวของสีได้
3. ไฟสตูดิโอ LED ที่มีสี RGBLAC สามารถปรับเฉดสีได้ละเอียดกว่า RGBWW
ความแตกต่างของค่าสี RGBWW และ RGBLAC คือ เม็ดสี ซึ่งสีของ RGBWW รวมหลอดไว้ด้วยกัน 5 ดวง แต่สี RGBLAC รวมหลอดไว้ด้วยกัน 6 ดวง จึงสามารถปรับเฉดสีได้ละเอียดมากขึ้น ทำให้ปรับเปลี่ยนสีได้หยืดหยุ่นในการทำงานมากกว่าเดิมนั้นเอง เพราะฉะนั้นไฟที่มีค่าสี RGBLAC เหมาะสำหรับงานสตูดิโอระดับมืออาชีพ ที่ต้องการสร้างสีที่ละเอียดมากขึ้น ซึ่งไฟที่มีสี RGBLAC ก็คือ ไฟรุ่น Nanlite Forza 60C