การถ่าย Stop Motion หรือวัตถุเคลื่อนไหว ทำได้ไม่ได้ยาก มือใหม่ก็สามารถทำได้โดย ไม่ต้องง้อมืออาชีพ อยากรู้ว่าทำยังไง??!! เข้ามาดูกัน
คุณสมบัติของ iFootage Shark Slider Nano-Bundle
- ตัวเลื่อน 2 ทิศทาง ควบคุมได้ 2 แกน
- ซ้ายไปขวาได้สูงสุด 40 ซม.
- หมุนได้ 360 องศา ไม่ต้องใส่หัวบอลเพิ่ม
- เคลื่อนที่ได้ยาว 2 เท่า
- ใช้งานผ่านแอป หน้าจอสัมผัส
- รับน้ำหนัก แนวนอน 3.5 kg. แนวตั้ง 2 kg.
- ใช้แบตเตอรี่ NPF550 / 750 / 970
- น้ำหนัก 2.15 kg.
1. แบบแรกตั้งขา tripod นิ่งแล้วถ่ายหลายๆ เฟรม
เริ่มด้วยการถ่ายภาพนิ่งกับขาตั้ง Tripod ให้ตั้งกล้องนิ่งๆ โดยนำสินค้ามาขยับเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ แล้วถ่ายหลายๆ เฟรม ราวกับว่าสินค้ามีชีวิต หรือการทำให้สินค้ามีการเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง
2. ตั้งค่ากล้องเป็นโหมด M (Manual mode)
การถ่าย Stop motion การตั้งค่ากล้องเป็นโหมด M (Manual mode) ซึ่งจำเป็นมาก เพราะช่วยป้องกันไม่ให้ค่าแสงมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างการถ่ายภาพต่อเนื่อง โดยตั้งค่าดังนี้ อุณหภูมิสี 4300K ความเร็วชัตเตอร์ที่ 1/100 รูรับแสง 2.0 และ ISO 200 รวมไปถึง White balance เพื่อให้ได้ภาพที่มีความสอดคล้องกับในสิ่งที่คุณต้องการได้มากที่สุด
3. แบบที่สองใช้งานรางสไลด์กับกล้อง
รางสไลด์ iFootage Shark Slider Nano-Bundle รุ่นนี้จะมีสายเชื่อมต่อมาให้ สามารถเสียบเข้ากับกล้องได้เลย เมื่อติดตั้งรางสไลด์เข้ากับกล้องเรียบร้อยแล้ว สามารถเปิดเครื่องได้เลย ระบบจะทำการ Calibrate ให้รอประมาณ 10 วินาที แล้วกล้องจะสั่งให้ปรับกล้องตรงไปทางด้านหน้า หลังจากนั้นกด Confirm เพื่อลดข้อผิดพลาดในการมาร์กจุด
4. เปิดโหมด Stop motion บนรางสไลด์
รางสไลด์ iFootage Shark Slider Nano-Bundle มีโหมดการถ่าย Stop motion มาให้ด้วย ซึ่งสามารถตั้งค่าได้ 2 ค่า คือ ระยะเวลา กับเฟรมเรทสามารถตั้งค่าได้ตามความเหมาะสม ซึ่งเราจะตั้ง Output time 20 วินาที สำหรับดอลลี่และถ่ายไปด้วย
5. เคลื่อนรางสไลด์เพื่อทำการมาร์กจุด
กดปุ่มเปิด-ปิด พร้อมกับกดปุ่ม FN เพื่อเปิดการมาร์กจุด จะมีไฟกะพริบ จากนั้นเลื่อนรางสไลด์ไปที่จุด A และ B กดปุ่ม FN เพื่อทำการมาร์กจุด รางสไลด์จะดอลลี่ไปเรื่อยๆ พร้อมล็อควัตถุ ขณะเดียวกันก็ถ่ายภาพจนครบตามจำนวนภาพที่ต้องการตามดอลลี่ เฟรมภาพในการถ่าย Stop motion มีการเคลื่อนไหว ทำให้ภาพสวยแปลกตา ได้มุมภาพแตกต่างไปจาก Stop motion แบบเดิมๆ
