ไลฟ์แล้วหน้ามืด มีเงาดำไม่สวย แก้ได้ด้วยวิธีนี้

ไลฟ์แล้วหน้ามืด มีเงาดำไม่สวย เป็นปัญหาที่เกิดกับมือใหม่เริ่มต้นเยอะมาก ซึ่งมีวิธีแก้ไขง่าย ๆ และควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยสำคัญต่าง ๆ ที่จะอยู่ในเนื้อหานี้ รับรองว่าจะช่วยให้ไลฟ์ของคุณดูสวยขึ้น น่าสนใจมากขึ้นแน่นอนครับ

1. ใช้ไฟสตูดิโอ ไม่ควรใช้แสงเดิม ๆ จากในห้อง

อย่างแรกคือเลือกใช้ไฟสตูดิโอในการไลฟ์แทนไฟเดิม ๆ จากในห้องครับ เพราะว่าไฟในห้องนั้นเขาออกแบบมาให้แค่แสงสว่างสำหรับการใช้ชีวิตทั่วไป ซึ่งแตกต่างจากไฟสตูดิโอที่ออกแบบมาเพื่อสำหรับทำงานด้านวิดีโอโดยเฉพาะ ทั้งในเรื่องของความสว่างและเรื่องของลักษณะแสงที่มีความนุ่มนวล 

ไฟสตูดิโอนั้นออกแบบให้คนที่อยู่หน้ากล้องนั้นดูดี ผิวนุ่มนวล สีสันก็ตรง และยังสามารถจัดตำแหน่งไฟให้เหมาะสมกับการถ่ายวิดีโอของเราด้วยครับ แนะนำว่าให้เริ่มต้นจากการใช้ไฟที่เหมาะสมกับการทำไลฟ์จะช่วยให้เราดูดีได้ แม้จะเป็นแค่กล้องมือถือก็ยังช่วยให้เราดูดีได้เลย

2. การจัดไฟที่ถูกต้อง ที่ทำให้หน้าใส และเลี่ยงการเกิดเงาบนใบหน้า

การจัดไฟเป็นความรู้ที่จำเป็นมาก ๆ สำหรับคนที่จะทำงานด้านวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์หรือการถ่ายวิดีโอทั่วไป เพราะทิศทางแสงที่เหมาะสมทำให้เราดูดีได้ทันที และการจัดไฟที่ไม่เหมาะสมก็ทำให้เราดูแย่ลงทันทีได้เช่นกันครับ

หากเรามีไฟสตูดิโอสักดวงและทำงานร่วมกับซอฟท์บ็อกซ์ลองให้เราจัดไฟไว้ 45 องศาจากด้านหน้าเรา และสูงขึ้นประมาณ 45 องศาจากตำแหน่งที่เรานั่ง ก็จะทำให้เราได้แสงไฟที่ดูสวยงามครับ ทำให้หน้าสว่างและมีมิติด้วย

นอกจากนี้การจัดไฟยังมีอีกหลายวิธีที่จะช่วยให้เราดูดีได้ตั้งแต่การจัดไฟให้กับฉากหลังของวิดีโอเรา การใช้ไฟเสริ่มเพื่อสร้างมิติให้กับผิว เส้นผม และสร้างความสว่างที่เหมาะสมได้

3. การตั้งค่ากล้องที่เหมาะสม ทำให้ได้แสงสว่างที่เพียงพอ

สุดท้ายคือเรื่องของการตั้งค่ากล้องที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ความสว่างที่เพียงพอ แม้ว่าเราจะได้แสงที่สวยแล้วแต่การตั้งค่าที่ถูกต้องก็จำเป็นเหมือนกันนะ โดยการตั้งค่าสำหรับถ่ายวิดีโอนั้นจะมีรายละเอียดดังนี้

Frame Rate จะเป็นอัตราความต่อเนื่องของเฟรมวิดีโอที่เราใช้ ส่วนใหญ่เราจะใช้ 24, 30, 60 เฟรม แล้วแต่ว่าเราต้องการความลื่นไหลที่เท่าไหร่ และ Platform ของระบบไลฟ์ที่เราใช้เขารองรับที่เท่าไหร่ด้วย ส่วนใหญ่ที่เจอก็ 24, 30 ครับ

Shutter Speed คือค่าความเร็วชัตเตอร์ที่ต้องตั้งค่าให้สัมพันธ์กับ Frame Rate ที่เราตั้งไปเมื่อครู่นี้ โดยให้เลือกค่า Shutter Speed เป็น 2 เท่าของ Frame Rate ไปเลย ยกตัวอย่างเช่น เราตั้งค่า Frame Rate ไว้ 30 เราก็ตั้ง Shutter Speed ไว้ที่ 1/60, หรือถ้าตั้งไว้ที่ 24 เฟรม ก็ตั้ง Shutter Speed ที่ 1/50 เป็นต้นครับ

ค่า Shutter Speed นั้นจะทำให้การเคลื่อนไหวของวิดีโอเราเกิด Motion Blur ที่สวยงาม โดยมีเงื่อนไขว่าเราต้องตั้งค่าเป็น 2 เท่าของ Frame Rate นั่นเอง

ค่ารูรับแสง อันนี้แล้วเราว่าเราอยากได้ละลายหลังเยอะแค่ไหน โดยส่วนใหญ่แล้วรูรับแสงเรามักจะเปิดกว้างที่ F2.8, F1.8 เพื่อให้การละลายหลังสวยงามและไม่เบลอมากจนเกินไป อยู่ที่ความชอบของผู้ใช้ครับ โดยส่วนตัวแนะนำให้เปิดไว้กว้างสุด หรือเลือกตัวเลขน้อย ๆ นั่นเอง จะทำให้รูรับแสงเปิดกว้างและแสงเข้ามาเยอะ

ค่า ISO เป็นค่าความไวแสงของกล้อง จะทำให้เร่งสัญญาณการรับแสงของกล้องได้ทันทีแต่เราไม่ควรใช้เกินไปเพราะจะทำให้เกิด Noise ในภาพ เราควรตั้งไว้ตามความเหมาะสม ควรใช้ประมาณ 100-3200 ไม่เกินนี้ เพราะถ้าไลฟ์ในบ้าน มีแสงไฟสตูดิโอ ส่วนใหญ่แล้วเราสามารถเพิ่มแสงสว่างที่ตัวไฟได้ครับ เพราะงั้นค่า ISO ก็ใช้ตามความเหมาะสม ไม่มีอะไรที่ตายตัวครับ

สมัครรับโปรโมชั่น

เพิ่มเพื่อน LINE@ เพื่อรับข่าวสารการเปิดตัวสินค้าและโปรโมชั่น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *