เปรียบเทียบ Nanlite PavoTube 30C และ Nanlite PavoTube II 30X มีจุดเด่นและความแตกต่างในเรื่องอะไรบ้าง ทั้งไฟ Nanlite PavoTube 30C และ Nanlite PavoTube II 30X ต่างมีคุณสมบัติที่เป็นทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งาน เพื่อให้ตอบโจทย์การทำงานของแต่ละคนแต่ละสไตล์มากที่สุด โดย Nanlite PavoTube II 30X จะมีการปรับให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ควบคุมสะดวกมากขึ้น กำลังไฟสูงขึ้น เอฟเฟคแสงมีให้เลือกใช้มากขึ้นถึง 15 แบบ รวมไปถึงเรื่องสีสันและความแม่นยำของไฟที่สูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงอีกอย่างหนึ่งคือการเปลี่ยนรูปแบบการ เปลี่ยนสีของไฟ RGBWW บน Nanlite Pavotube จาก RGBWW LED Tube Light คือเปลี่ยนสีแบบทั้งแท่งสีเดียว แต่บน Nanlite Pavotube II X จะเป็นการเปลี่ยนแบบ RGBWW Pixel tube คือแท่งเดียวมีหลายสี ซึ่งเป็นการปรับการใช้งานให้ดูน่าสนใจมากขึ้นเช่นกัน
ออกแบบให้ตั้งวางได้อย่างอิสระด้วยการออกแบบส่วนท้ายให้เป็นทรงเหลี่ยมเหมือนเดิม ปรับขนาดให้เล็กลงเล็กน้อย
รูปร่างและดีไซน์ยังคงเป็นลักษณะเดิมแบบไฟแท่ง Nanlite PavoTube 30C คือมีส่วนท้ายที่ออกแบบให้มีเหลี่ยมมีมุมเพื่อการวางปรับทิศทางได้สะดวก แต่มีขนาดและน้ำหนักที่แตกต่างกันเล็กน้อยคือ Nanlite PavoTube 30C มีขนาด 48×1170mm และน้ำหนัก 1.25 กิโลกรัม ส่วน Nanlite PavoTube II 30X มีขนาดเล็กลงกว่าเล็กน้อยแต่น้ำหนักมากขึ้นโดยมีขนาด 43×1145mm และน้ำหนัก 1.7 กิโลกรัม

กำลังไฟสูงขึ้นจากเดิมเพื่อความสว่างที่มากขึ้น
ในขนาดที่เล็กลง ความสามารถที่ถูกปรับให้สูงขึ้นคือความสว่างที่สูงขึ้น ให้ความสว่างกับตัวแบบและการปรับแต่งบรรยากาศทำได้ดีขึ้น โดยจากเดิม Nanlite PavoTube 30C จากเดิมให้กำลังไฟ 30 วัตต์ และมาในรุ่น Nanlite PavoTube II 30X ให้กำลังไฟที่มากขึ้นเป็นเท่าตัวคือ 70 วัตต์

ปรับสีตามอุณหภูมิแสงได้กว้างขึ้น เลียนแบบสีของแสงในธรรมชาติได้หลากหลายช่วงมากขึ้น
การปรับสีหรือการใช้งานสีของแสงที่เปลี่ยนได้ ช่วยให้สะดวกในการทำงานในสตูดิโอ คือไม่จำเป็นต้องตามแสงธรรมชาติเพียงอย่างเดียว แต่สามารถจำลองแสงในธรรมชาติเพื่อให้สะดวกในการทำงานมากขึ้น โดย Nanlite PavoTube 30C เปลี่ยนตามอุณหภูมิแสงแบบ CCT ได้ตั้งแต่ 2700K-6500K ซึ่งในรุ่น Nanlite PavoTube II 30X ทำได้กว้างถึง 2700K-12000K

ความแม่นยำของสีสูงขึ้นกว่าเดิม ให้ค่า CRI/TLCI ที่สูงขึ้น
ความแม่นยำสีจะเหมาะกับการถ่ายภาพบุคคลและสินค้าที่ต้องการอ้างอิงสีที่ถูดต้อง สีไม่เพี้ยนจากสีที่เกิดได้จากการใช้แสงสว่างจากธรรมชาติ โดยความแม่นยำสีได้พัฒนาให้มีค่าความแม่นยำสีสูงขึ้นจากเดิม Nanlite PavoTube 30C มีความแม่นยำสีอยู่ที่ CRI/TLCI 95/95 แต่ใน Nanlite Pavotube II 30X มีค่า CRI/TLCI 97/98

ไฟแบบ RGBWW แท่งเดียวพร้อมกันหลายสี ความคุมให้กะพริบในแต่ละช่องสีได้ด้วย
ความสามารถที่น่าสนใจและดูน่าตื่นเต้นคือการเปลี่ยนสีไฟแบบ RGBWW ที่จะถูกใช้เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับงานวิดีโอและภาพยนตร์ รวมถึงการย้อมสีของแสงสร้างบรรยากาศ ซึ่งการเปลี่ยนสีบน Nanlite Pavotube II 30C จะเป็นแบบ RGBWW LED tube light คือเปลี่ยนสีแบบทั้งแท่ง สีเดียว แต่บน Nanlite Pavotube II 30X จะเป็นการเปลี่ยนแบบ RGBWW Pixel Tube คือไฟแท่งหนึ่งจะมีถึง 16 ช่องสีในคราวเดียวจึงสร้างความแปลกใหม่และดูน่าตื่นเต้นมากกว่าเดิม ทั้งยังสามารถความคุมการกะพริบของแต่ละช่องสีได้ด้วย

แสงสเปเชียลเอฟเฟคที่ดูสมจริงมีให้เลือกมากขึ้นถึง 15 แบบ ใช้งานได้อย่างจุใจมากยิ่งขึ้น
แสงแบบต่าง ๆ หรือแสงสเปเชียลเอฟเฟคช่วยให้การทำงานของผู้สร้างงานวิดีโอหรือภาพยนตร์ที่ต้องการสื่อสารและเล่าเรื่องโดยมีแสงประกอบทำได้ง่ายมากขึ้น โดยเป็นการเลียนแบบแสงที่เกิดจากธรรมชาติรวมไปถึงแสงที่มนุษย์สร้างขึ้นด้วย โดย Nanlite Pavotube II 30X มีให้เลือกใช้ได้ถึง 15 เเบบ ทั้ง Hue Loop, CCT Loop, INT Loop, CCT Flash, HUE Flash, CCT Pulse, Hue Pulse, Storm, Police Car, TV, Paparazzi, Candle/Fire, Disco, Bad Bulb, Firework, Explosion และ Welding ซึ่งมากกว่า Nanlite Pavotube 30C ที่มีเอฟเฟคแสงให้เลือกใช้ 5 รูปแบบ คือ Multi Flash, Storm, SOS, Candle และ Cop Car

ช่องเชื่อมต่อกับหมุดยึด 1/4 – 20 มีให้มากขึ้นถึง 3 จุด
ช่องสำหรับการต่อเข้ากับหมุดยึด 1/4 – 20 มีมาให้เพื่อต่อติดตั้งเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์อื่นโดยปกติจะเห็นในรุ่น Nanlite Pavotube 30C มีให้ 2 จุด ซึ่งในรุ่น Nanlite Pavotube II 30X มีเพิ่มมาให้ถึง 3 จุดเพื่อการต่อเข้าทำงานได้สะดวกมากขึ้น

ต่อเชื่อมไร้สายมีประสิทธิภาพการสูงขึ้นอัปเดตเฟิร์มแวร์จากผู้ผลิตได้
เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งาน และการควบคุมที่คล่องตัวมากขึ้น Nanlite Pavotube II 30X สามารถควบคุมผ่านจากแผงควบคุมบนไฟแท่งได้โดยตรง ยังสามารถควบคุมผ่าน คลื่นความถี่ Wifi 2.4G, Bluetooth, DMX, RDM อัปเดตเฟิร์มแวร์ได้ ซึ่งไฟแท่ง Nanlite Pavotube 30C ควบคุมผ่านแผงควบคุม และไร้สายได้แต่มีช่องทางไร้สายเพียงช่องทางเดียวคือระบบไร้สายที่ความถี่ Wifi 2.4G
