ไฟหลอดแท่ง ในราคาที่ ถูก ,กลาง ,แพง มันต่างกันหรอ?ก็ใช้งานได้เหมือนกัน!! ในบทความนี้เราจะมาเปรียบเทียบกันชัดๆ ว่าแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน แล้วเราควรซื้อแบบไหนดี!!
1. ไฟแท่งราคาแพง
เริ่มต้นด้วยไฟแท่งราคาแพง แน่นอนผู้ผลิตอัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติเต็มที่ ทั้งไฟ ปรับเปลี่ยนสี ค่าสีสูงถึง CRI 98 ไม่เพี้ยน ความสว่างสูง ปรับอุณหภูมิแสงสีได้ เอฟเฟคแสง พร้อมฟังก์ชั่นหลากหลาย จึงมั่นใจเลยว่าจะได้แสงคุณภาพ แสงนุ่มนวล ไฟที่ได้ตามมาตรฐาน ควบคุมการทำงานได้ง่าย สามารถปรับตั้งค่าไฟผ่านแผงควบคุม หรือควบคุมผ่านแอพลิเคชั่น Nanlink ได้เลย นอกจากนี้ไฟสามารถต่อกันได้หลายๆ ตัว เพื่อสร้างสรรค์งานได้อย่างเต็มที่
ไฟแท่งรุ่นที่นิยมใช้งานคือ Pavotube 15C 30C 15x 30x 60x และ 60C เพื่องานถ่ายภาพยนตร์/งานวิดีโอ โปรดักชั่น MV โฆษณา งานคอนเสิร์ต งานอีเวนต์ต่างๆ ใช้งานได้ทั้งในห้องสตูดิโอและนอกสถานที่ จึงเหมาะกับการทำงานแบบมืออาชีพ
2. ไฟแท่งระดับกลาง
ไฟแท่งระดับกลางการทำงานไม่ต่างกับไฟราคาแพงมาก แต่จะมีบางฟังก์ชั่นที่ไม่มี และลดคุณสมบัติของแท่งไฟเพียงเล็กน้อย เช่น ให้ค่าตรงสี CRI 96-97 ความสว่างเพียงพอต่อการใช้งาน จึงเหมาะกับงาน Home studio ถ่ายรีวิวสินค้า ถ่ายภาพบุคคล เป็นต้น ซึ่งไฟแท่งระดับกลางมีหน้าจอ LED เพื่อแสดงสถานะของไฟ และมีแบตเตอรี่ในตัวมาให้เช่นเดียวกัน สามารถชาร์จไปใช้งานไปด้วยได้ ทำให้สะดวกในการทำงาน โดยไฟแท่งรุ่นระดับกลาง ได้แก่ PavoTube II 6C และ Pavotube T8-7X
3. ไฟแท่งราคาถูก
หากเป็นการถ่ายงานให้ลูกค้า ถ่ายงานจริงจัง ไฟราคาถูกอาจจะไม่เหมาะ เพราะไม่มีค่าตรงสี ทำให้สีวัตถุเพี้ยน ทั้งไฟแท่งไม่มีเอฟเฟค ไม่มีฟังก์ชั่น ไม่มีแบตเตอรี่ Built-in ใช้เสียบกับปลั๊กไฟอย่างเดียว จึงไม่สะดวกในการทำงานนอกสถานที่ เป็นไฟแท่งที่เอาไว้แต่งฉาก แต่งตามจุดต่างๆ เพื่อให้ฉากดูมีสีสัน สวยมากขึ้น จึงเหมาะสำหรับผู้ใช้งานเริ่มต้น ถ่ายสินค้าไม่เน้นเรื่องสีตรง
