5 ข้อก่อนตัดสินใจจะเลือกซื้อไมค์สักตัวไว้ใช้งานสำหรับผู้เริ่มต้น ก่อนจะเริ่มงานเสียง คอนเทนต์ครีเอเตอร์รุ่นใหม่ก็ต้องนึกอยากจะได้ไมค์สักตัวไว้ใช้งาน แต่ต้องเลือกไมค์อย่างไรเพื่อจะตอบโจทย์การทำงานมากที่สุด และคุ้มค่าจัดการกับต้นทุนการผลิตได้ ลองมาดู 5 ข้อก่อนตัดสินใจจะเลือกซื้อไมค์สักตัวไว้ใช้งานสำหรับผู้เริ่มต้น ว่าเราจะต้องดูจากอะไรบ้าง
1. ต้องการโชว์ตัวไมค์ หรือซ่อนไมค์ใต้ปกเสื้อ
ลักษณะการใช้งาน ก็เป็นสิ่งที่ช่วยเลือก และตัดสินใจซื้อไมค์ได้ เช่น การเลือกจะใช้ไมค์แบบตั้งโต๊ะ ที่ต้องให้ผู้ชมเห็นไมค์ ก็อาจจะดูว่าดีไซน์มีผลกับภาพลักษณ์ หรือตัวตนของคอนเทนค์ครีเอเตอร์หรือไม่ เช่น การเลือกไมค์ตั้งโต๊ะ ที่ดีไซน์สวย หรือไมค์ลาวาเลียร์ หรือไมค์หนีบปกที่ซ่อนอยู่หลังปกเสื้อ หรือจะเป็นไมค์ไร้สายที่ดีไซน์น่ารัก ก็โชว์รูปลักษณ์ของไมค์เพื่อเป็นการเสริมภาพลักษณ์ของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ได้
2. ความไวต่อเสียงและความละเอียดในการรับเสียง
ไมค์คอนเดนเซอร์จะเหมาะกับการทำงานที่ต้องการความไวในการรับเสียง คือ การขยับหรือมีเสียงดังเพียงเล็กน้อย ไมค์ก็สามารถจับและบันทึกเสียงได้ เหมาะสำหรับการทำงานเสียงพากย์ การเก็บเสียงบรรยากาศ และการเก็บเสียงแบบ ASMR ส่วนการใช้งานไมค์ที่อาจจะมีแรงกระแทกเยอะ หรือเป็นเสียงที่มีระดับความดังพอประมาณอยู่แล้ว เช่น เสียงพูด เสียงร้องเพลง เสียงเครื่องดนตรี ก็สามารถที่จะเลือกใช้ไมค์แบบไดนามิกได้
3. เป็นการทำงานอยู่กับที่ หรือต้องขยับเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา
การเลือกแบบนี้ก็จะเป็นตัวเลือกระหว่างไมค์สายและไมค์ไร้สาย โดยไมค์สายจะเป็นเสียงได้ดีไม่ดีเลย์ เสียงไม่ขาดหาย แต่จะถูกจำกัดด้วยความยาวของสาย เหมาะสำหรับงานที่ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้าย เคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ส่วนไมค์ไร้สาย จะตอบโจทย์ด้านความคล่องตัว และสามารถเดินห่างออกจากตัวรับสัญญาณได้ไกลมากน้อยแล้วแต่รุ่นของผลิตภัณฑ์ความน่ารักสวยงามน่าใช้ และความสามารถในการเก็บรายละเอียดเสียงที่ไม่แพ้ไมค์สายเลย
4. รูปแบบการรับเสียงจากด้านหน้าหรือ 360 องศา
รูปแบบการรับเสียงของไมค์ หลัก ๆ ที่มีอยู่ในตลาดก็จะมีทั้งจากด้านหน้า Cardioid และการรับเสียงได้แบบ 360 องศาแบบ Omnidirectional ถ้าเน้นการเก็บเสียงจากด้านหน้า เอาไมค์ไปวางจ่ออยู่หน้าแหล่งกำเนิดเสียง เช่น การพูดคุย ร้องเพลง การเก็บเสียงเครื่องดนตรี หรือเป็นการเก็บเสียงแบบไมค์ซ่อน ไมค์ไร้สาย จะติดไมค์ให้อยู่ห่างระยะหนึ่ง ก็สามารถเก็บรายละเอียดเสียงได้ครบถ้วนเช่นกัน ซึ่งไมค์แบบ 360 องศา อาจจะต้อง ดูความสามารถในการลดเสียงรบกวนด้วย เพราะไมค์รับเสียงได้รอบด้านดังนั้น จึงมีโอกาสที่จะมีเสียงแทรกที่ไม่ต้องการเข้ามาได้ง่ายเช่นกัน
5. ใช้งานกับคอมพิวเตอร์ มือถือสมาร์ทโฟน หรือการต่อเข้ากับอุปกรณ์เสียงแบบมืออาชีพ
การต่อใช้งานกับอุปกรณ์ด้านเสียงที่ใช้ก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงด้วยเช่นกัน เพราะสายที่จะต่อเข้าใช้งานกับคอมพิวเตอร์ หรือมือถือ หรือเครื่องเสียง เช่น มิกเซอร์ ก็จะมีหัวต่อที่แตกต่างกัน ถ้าเน้นการใช้งานง่าย อาจจะเลือกไมค์แบบ USB ที่ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ได้ หรือถ้าเลือกไมค์ที่มีหัวต่อทั้งสองแบบก็ช่วยให้ผู้ใช้ยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้นด้วย
